นักวิทยาศาสตร์พบว่า ความดังของเสียงดนตรีมีผลต่อการเลือกสั่งอาหาร เสียงดนตรีเบาๆ ประมาณ 55 เดซิเบล ในร้านอาหารและภัตตาคารทำให้ลูกค้าสั่งอาหารสุขภาพ ในทางตรงข้ามเสียงดนตรีดังๆ ประมาณ 70 เดซิเบล ทำให้ลูกค้าสั่งอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
Dr. Dipayan Biswas นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย University of South Florida เปิดเผยว่าระดับเสียงของดนตรี มีผลกระทบต่อพฤติกรรมการบริโภคอาหารของมนุษย์ ผลสำรวจของนักวิทยาศาสตร์ผู้นี้พบว่าระดับเสียงดนตรีที่เปิดในร้านอาหารดังประมาณ 55เดซิเบล จะกระตุ้นให้ลูกค้าสั่งอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น สลัดผัก แต่ระดับเสียงดนตรีประมาณ 70 เดซีเบล จะทำให้ลูกค้ามีแนวโน้มสั่งอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น ชีสเบอร์เกอร์ และมันฝรั่งทอด
Dr. Dipayan Biswas ระบุว่า ความดังของเสียงดนตรีมีผลโดยตรงต่อระดับการเต้นของหัวใจให้สูบฉีดโลหิตมากขึ้น และทำให้เกิดความเครียด ซี่งส่งผลให้ลูกค้าเลือกอาหารที่มีความมันและแคลอรี่สูง ในขณะที่เสียงดนตรีเบาๆ ช่วยให้ลูกค้าเกิดความระมัดระวังในการเลือกสั่งอาหาร
Dr. Dipayan Biswas ใช้วิธีทดสอบในภัตตาคารหลายแห่ง วันละหลายชั่วโมง ต่อเนื่องกันหลายวัน โดยแบ่งเมนูอาหารเป็น 3 กลุ่ม คือ อาหารเพื่อสุขภาพ, อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ, และอาหารทั่วไป ปรากฏว่าลูกค้าเลือกสั่งอาหารประเภทไม่ดีต่อสุขภาพเพิ่มขึ้นประมาณ 20% เมื่อภัตตาคารเปิดเพลงด้วยความดัง 70 เดซิเบล และพบว่าดนตรีเสียงเบาๆ ในภัตตาคารช่วยให้ขายดีขึ้นกว่าการเปิดดนตรีเสียงดัง
ผลสำรวจพบว่าภัตตาคารที่เปิดดนตรีเบาๆ ขนาด 55 เดซิเบล มียอดขายเฉลี่ย 295 เมนู แบ่งเป็นเมนูสุขภาพ 32%, เมนูไม่ดีต่อสขภาพ 42%, และเมนูทั่วไป 26% แต่เมื่อระดับเสียงดนตรีเพิ่มเป็น 70 เดซิเบล จำนวนอาหารที่ขายได้เฉลี่ย 254 เมนู เป็นเมนูสุขภาพ 25%, เมนูที่ไม่ดีต่อสุขภาพ 52%, และเมนูทั่วไป 23%
งานวิจัยชิ้นนี้ ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร
Journal of the Academy of Marketing Science
ที่มา:
Dailymail
Image Credit:
Robin Stickel
0 Comments